วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2553
"เ สี ย ด า ย ....ที่ ค น ต า ย ไ ม่ ไ ด้ อ่ า น. "
๑. กลัวลูกมีเซ็กส์ในวัยเรียน?
ไม่อยากให้เกิด ต้องเอาปัญญาใส่ในมือลูก
ให้เงินลูกน้อยๆ ให้ความรู้แก่ลูกมากๆ
ด่าลูกน้อยๆ ให้คำสอนลูกมากๆ
๒. ไหว้พระขอพรอะไรดี?
(๑) ขออย่าให้โลภจนหน้ามืด
(๒) ขออย่าให้โกรธจนทำร้ายตัวเอง
(๓) ขออย่าให้หลงจนไม่รู้ดีรู้ชั่ว
(๔) ขออย่าให้ตายในสงครามระหว่างคนไทยด้วยกันเอง
๓. ท้อแท้กับปัญหามากมายทำอย่างไรดี?
ปลาที่ยังเป็นอยู่ ล้วนเรียนรู้ที่จะว่ายทวนน้ำ
ส่วนปลาตาย มักไหลตามน้ำ
ปัญหาทำให้คนธรรมดาท้อ แต่ทำให้คนมีปัญญาลุกขึ้นมาแก้ไข
๔. ทะเลาะกับแฟนจนไม่มีสมาธิทำงาน?
งานส่วนงาน แฟนส่วนแฟน
รู้จักแบ่งเวลาให้งาน รู้จักแบ่งเวลาให้แฟน
อย่าเสียงานเพราะแฟน อย่าเสียแฟนเพราะงาน
๕. โกรธ! ถูกเพื่อนนินทา!
โบราณว่าไม่มีใครเตะหมาที่ตายแล้ว
คุณถูกนินทาแสดงว่าคุณยังมีความหมาย
คุณเป็นคนโชคดี จู่ๆ ก็มีกระจกวิเศษสะท้อนความอัปลักษณ์
ให้เห็นความบกพร่องของตัวเอง
๖. จับได้ว่าแฟนมีกิ๊กทำอย่างไรดี?
(๑) ถามตัวเองว่าเราดีกับเขาพอหรือยัง
(๒) ระหว่างเรากับกิ๊กมีข้อดีข้อด้อยต่างกันตรงไหน
(๓) ถามแฟนว่าจะเลือกใครก็รีบทำ
ไม่รักฉัน อย่าทำให้ฉันเสียเวลา
๗. โดนเพื่อนร่วมงานแย่งซีนทำอย่างไร?
เขาแย่งจากเราได้เพียงแค่ซีนและภาพลักษณ์เท่านั้น
แต่เขาไม่สามารถแย่งความรู้และความสามารถไปจากเราได้
๘. งานเยอะมากทำอย่างไรดี?
(๑) รู้ว่างานเยอะต้องรีบทำ
(๒) อย่าดองงานข้ามปีข้ามชาติ
(๓) เรียงลำดับความสำคัญของงาน
สำคัญก่อนให้รีบทำ สำคัญน้อยค่อยทยอยทำ
๙. ทำงานดี มีแต่คนริษยา จะรับมืออย่างไร?
โบราณว่า ไม้ใหญ่ย่อมเจอขวานคม
คนเด่นต้องมีคนด่า คนมีปัญญาจึงมีคนลองดี
คนทำงานดีจึงมีคนริษยา ปรากฏการณ์เช่นว่านี้
เป็นของธรรมดา ทำงานดีจนมีคนริษยา
ยังดีกว่าทำงานไม่ดี จึงเป็นได้อย่างดีแค่คนที่คอยริษยา
๑๐. ทำงานแทบตาย เงินไม่พอใช้ ทำอย่างไรดี?
(๑) หางานใหม่
(๒) ลดความต้องการให้น้อยลง อยู่กับความจริงให้มาก
(๓) บริโภคปัจจัยสี่โดยมุ่งประโยชน์ อย่ามุ่งประดับ
(๔) ทำบัญชีรายรับรายจ่าย รับมากกว่าจ่ายจึงนับว่ายอด
จ่ายมากกว่ารับนับว่าแย่
๑๑. ถูกนายด่า อารมณ์เสีย?
คนที่ด่าคนอื่นสะท้อนว่าระบบข้างในกำลังพัง
คนอารมณ์เสียเพราะถูกด่า
แสดงว่าระบบของตัวเองก็พังตามไปด้วย
๑๒. ไถ่ชีวิตโคได้บุญมากไหม?
ถ้าไถ่แล้วโคอยู่รอด คุณได้บุญ
แต่หากไถ่เพื่อทำให้วัดอยู่รอด คุณได้บาป
แทนที่จะไถ่โคกระบือ
คุณควรไถ่ตัวเองให้พ้นจากความโลภ โกรธ หลง ดีกว่า
๑๓. แฟนติดหนังเกาหลี ดูทั้งคืนไม่ยอมนอน?
ขอให้คิดว่าอย่างน้อยเธอยังนั่งดูอยู่ในบ้าน
ถึงเธอจะติดหนังเกาหลี ก็ยังดีกว่าติดผู้ชายขี้หลีที่อยู่นอกบ้าน
๑๔. ลูกค้าจู้จี้ทำอย่างไรดี?
มีลูกค้าจู้จี้ยังดีกว่าวันทั้งวันไม่มีใครแวะเวียน
ผ่านมาเยี่ยมเยียนถึงในร้าน
ลูกค้าจู้จี้ได้ แต่คุณต้องทำให้เขาประทับใจเอาไว้เสมอ
๑๕. ไปงานวันเกิดควรได้อะไร?
(๑) ได้ถามตัวเองว่า เราเกิดมาเพื่ออะไร
(๒) ได้ถามตัวเองว่า เราเกิดมาจากใคร
(๓) ได้ถามตัวเองว่า เรากตัญญูต่อผู้ให้กำเนิดแล้วหรือยัง
๑๖. สวดมนต์บทไหนดี?
(๑) สวดพุทธคุณเพื่อเตือนว่า จงเป็นผู้ตื่น
(๒) สวดธรรมคุณเพื่อเตือนว่า
จงเว้นสิ่งที่ควรเว้น จงทำสิ่งที่ควรทำ
(๓) สวดสังฆคุณเพื่อเตือนว่า พระอรหันต์ที่แท้
คือพ่อกับแม่ที่อยู่ในบ้านของเรานั่นเอง
๑๗. สามีไม่สนใจธรรมะเลยทำอย่างไรดี?
(๑) เราควรมีธรรมะให้เขาดู
(๒) เราควรอยู่ให้เขาเห็น
(๓) เราควรสงบเย็นให้เขาได้สัมผัส
เนื่องเพราะ หนึ่งการกระทำสำคัญกว่าพันคำพูด
๑๘. โดนขับรถปาดหน้า โมโหมาก?
(๑) บอกตัวเองว่าโกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ด่าคือมาร ระรานคือบาป
(๒) เปลี่ยนการด่าเป็นการแผ่เมตตาให้เขาถึงที่หมายโดยปลอดภัย
(๓) เตือนตนไว้ว่า อย่าขับรถปาดหน้าใคร เพราะอาจมีอันตรายรอบด้าน
๑๙. อยู่ในกลุ่มเพื่อนชอบนินทาจะตีจากดีไหม?
ท่านพุทธทาสกล่าวว่า คนชอบนินทาคือคนที่ชอบกินของเน่า
ถ้าเราร่วมผสมโรงไปกับเขา แสดงว่าเราเองก็ชอบกินของเน่าไม่เบาเหมือนกัน
๒๐. ทำไมมักเจอสิ่งที่ไม่ชอบใจอยู่เสมอ?
ผู้รู้บอกว่า ศิลปินอย่าดูหมิ่นศิลปะ กองขยะดูดีๆ ยังมีศิลป์
ดังนั้น ในสิ่งที่คุณไม่ชอบ ย่อมมีแง่มุมที่คุณชอบอย่างแน่นอน
มองอย่างพินิจจะพบว่า ในดีมีเสีย ในเสียมีดี
วันพุธที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2553
"รวมสูตรอาหารธรรมชาติบำบัด บำบัดร่างกายด้วยวิถีธรรมชาติ "
สูตรอาหารธรรมชาติบำบัด
เป็นสูตรอาหารที่มีหรือส่วนประกอบทางธรรมชาติ หรือส่วนประกอบที่หาได้ง่ายๆ ราคาไม่แพง เพื่อมาทำเป็นสูตรอาหารธรรมชาติบำบัดง่ายๆ ช่วยบำบัดร่างกายด้วยวิธีธรรมชาติ ซึ่งมีสูตรไหนบ้างนั้น มาดูกันเลยค่ะ
ล้างระบบดูดซึม
1. นมสด โยเกร์ต น้ำผึ้ง มะนาว : ใช้โยเกิร์ตชนิดจืดครึ่งถ้วย ผสมนมสดชนิดจืด 1 กล่อง เติมน้ำผึ้ง 2 ช้อนชา และ บีบมะนาว 2 ลูก คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วค่อยดื่ม
คุณสมบัติ : ให้วิตามิน B บำรุงสมอง วิตามิน C เพิ่มภูมิต้านทาน, จุลินทรีย์ตัวดีช่วยย่อย, นมสดให้แคลเซียม
2. บอระเพ็ดยาว 1 เกียก (กางนิ้วชี้ให้ห่างจากหัวแม่โป้งที่สุด แล้ววัดความยาวระหว่างปลายนิ้วชี้ กับ ปลายนิ้วโป้ง) ต้มน้ำ ดื่มแต่น้ำ บอระเพ็ดล้างไขมัน บำรุงถุงน้ำดี
3. ดีบัว ต้มน้ำ ดื่มแต่น้ำ
4. ชามะละกอ : มะละกอดิบ ที่ใช้ตำส้มตำ นำมาหั่นเป็นชิ้นเหมือนชิ้นฟัก ประมาณ 6-8 ชิ้นต่อน้ำ 2 ลิตร จะขาดจะเกิน ไม่ผิด (ถ้าใส่มากเกินไปจะทำให้บูดง่าย มะละกอดิบที่เหลือ ใส่ตู้เย็นเก็บไว้ใช้ได้ในครั้งต่อไป) และ ใบเตย หรือ เก๊กฮวย อย่างใดอย่างนึง กะเอง ต้มในน้ำ จนเดือด พอเดือดได้ประมาณ 1 นาที ปิดไฟทันที อย่าต้มต่อ ให้เอามะละกอ กับ ใบเตยทิ้ง (อย่าปล่อยให้มะละกอเดือดจนเละ) แล้วใส่ใบชา ลงไปแช่ประมาณ 4 นาที ห้ามแช่นานกว่า 4 นาทีเพราะสารแทนนินจะออกมา ทำให้ท้องผูก แล้วตักใบชาทิ้ง จะได้น้ำชามะละกอ ดื่มร้อน หรือ เย็นได้ น้ำชาที่เหลือให้แช่ตู้เย็น เก็บไว้ได้ประมาณ 2 วัน เกินกว่านั้นจะบูด (ยางมะละกอล้างไขมัน, ใบเตยให้ความสดชื่น, ชาดับกลิ่นมะละกอ)
5. ไวทาไลท์ สมุนไพรสกัดสูตรจีน : รากหญ้าคา เก๋ากี๊ (บำรุงตับ) เก๊กฮวย (บำรุงหัวใจ) ดอกคามิลเลีย 1 pack มี 10 ซอง 1 ซอง ชงกับน้ำ 1-2 ลิตร แล้วเก็บไว้ในตู้เย็น ใช้ดื่มวันละ 4-6 แก้ว
6. ข้าวต้มยางมะละกอ : มะละกอดิบ หั่นเป็นชิ้น ๆ ชิ้นละประมาณ 1 ข้อของนิ้วมือ ไม่ต้องปอกเปลือก ครึ่งลูกต่อน้ำประมาณ 2 ลิตร ต้มในหม้อ เมื่อเดือดแล้ว เคี่ยวต่อ จนมะละกอเละ เมื่อเละแล้ว ให้ช้อนมะละกอทิ้ง เหลือน้ำไว้ น้ำนั้นคือ น้ำยางมะละกอ นำน้ำยางมะละกอ มาหุงกับข้าวกล้อง ควรจะใส่ใบเตยหุงไปด้วย เพื่อความสดชื่น จะใช้น้ำเท่าไหร่ ให้กะเอากับจำนวนข้าวกล้อง กะให้หุงมาเป็นข้าวต้ม ไม่ใช่แห้งเป็นข้าวสวย น้ำยางมะละกอที่เหลือ แช่ตู้เย็นเก็บไว้ก่อน ห้ามใช้ข้าวขาว เพราะข้าวกล้อง จะมีสารไปลดพิษจากยางมะละกอ หุงกับข้าวกล้อง ให้กลายเป็นข้าวต้ม เมื่อได้ข้าวต้มยางมะละกอแล้ว ทานติดกัน 10-14 วัน ทุกมื้อ แทนข้าว ทานกับกับข้าวปกติ ช่วยล้างระบบดูดซึม ล้างไขมัน และ น้ำตาลในเลือด ลดกรดยูริค
กำจัดไวรัส
1. เม็ดมะรุมตากแห้ง แกะเปลือกแล้วทานเม็ดข้างใน วันละ 5-30 เม็ด เป็นเวลา 7-40 วัน แล้วแต่คำแนะนำของนักประเมินสุขภาพ
2. ข้าวต้มแครอท ป้องกันไวรัส (ไม่ได้กำจัด) ทานช่วงฤดูหนาว นำแครอทหั่นเป็นชิ้นเล็ก ต้มกับข้าว ทานเป็นข้าวต้ม ป้องกันไวรัส
แก้คัดจมูก ภูมิแพ้
1. ใบยอเผา ปิ้ง ยำ หรือใส่ในห่อหมก แก้ไอ คัดจมูก
2. เนยใส (Ghee) ชุบสำลี แยงจมูกให้ลึกที่สุด แก้คัดจมูก และ ภูมิแพ้ ฆ่าเชื้อในโพรงจมูก
3. ชามะละกอ ล้างไขมันในลำไส้ แก้ภูมิแพ้
4.ไวทาไลท์ ดื่มวันละ 1 ซอง รักษาภูมิแพ้ เจ็บคอ ร้อนใน
ล้างเชื้อรา
1. กินผักเมือก ๆ เช่น ผักบุ้งแดง, กระเจี๊ยบเขียว, ผักปรัง, บวบ, น้ำเต้า, เม็ดแมงลัก, ใบมะรุม เป็นต้น เมือก(เพคติน)จะไปล้างเชื้อราในระบบดูดซึมออกมา
2. ใบย่าน่าง คั้นน้ำ ทานน้ำ
3. อัลฟ่า 20 ซี สมุนไพรสกัดแบบเม็ด สร้างเม็ดเลือดขาว ล้างเขื้อรา
*ผู้ที่มีเชื้อรา ต้องงด อาหารหวาน และ ผลไม้,โปรตีนจากเนื้อสัตว์, ถั่วแห้ง เช่น ถั่วลิสง, งา
ถ่ายพยาธิ
1. เม็ดมะรุม วันละ 7 เม็ดขึ้นไป, น้ำมันมะรุม ทานไล่พยาธิ
2. กระเจียบเขียว 7 กำมือของผู้ป่วย ทานให้หมดภายใน 3 วัน ไล่พยาธิตัวจี๊ด และ อื่น ๆ
3. ยาถ่ายพยาธิทั่วไป ปรึกษาเภสัชกรประจำร้าน
4. เนื้อลูกยอ ช่วยขับพยาธิ
5. Sun Smile สมุนไพรสกัดจาก แป้งข้าวโพด น้ำมันมะพร้าว หยดในน้ำดื่ม
ล้างอุจจาระตกค้าง
1. เม็ดแมงลัก 2 ช้อนชา ผสมน้ำ 1 แก้ว ทิ้งไว้ 30 นาที ดื่มก่อนนอน เม็ดแมงลักจะลากอุจจาระตกค้างออก มา ทานเป็นปกติได้ทุกวัน หรือ 3-4 วันต่อสัปดาห์ แล้วแต่สมควร
2. นมสด 2 กล่อง (รวมจะได้ประมาณ 500 มิลลิตร) และ กล้วยน้ำว้า 2 ลูก ทานก่อน 6 โมงเช้า
3. ทานผักบุ้งแดง 2 กำมือ ผัด หรือ ต้ม ทำอาหารตามใจชอบ ผักบุ้งจะลากอุจจาระตกค้างออกมา
4. กระเจี๊ยบเขียว ทานวิธีใดก็ได้ 4-7 ฝักต่อวัน
5. โซดา 1 ขวด ผสมนมข้มหวาน 6 ช้อนโต๊ะ
รักษานิ่วในไต
1. เหล้าขาว หรือ Vodka 1 ก๊ง (2 ช้อนโต๊ะ) ผมมน้ำมะนาว 1 ลูก ทานก่อนนอนทุกวัน เป็นเวลา 10 วัน
2. แกนสับปะรด 3 ลูก กินเฉพาะแกน หรือ เอาแกนไปต้มน้ำพอประมาณ ทานเป็นเวลา 5-10วัน
บำรุงไต
1. ของสีดำตามธรรมชาติ ทุกชนิด เช่น ถั่วดำ, ข้าวเหนียวดำ, เห็นหูหนูดำ, เฉาก๊วย, งาดำ เป็นต้น
2. หน่อไม้ดอง
3. เม็ดบัว
4. ไขเยี่ยวม้า
5. น้ำฟักทอง
6. เห็ดหูหนูดำ ต้มกับหญ้าหวาน ใส่น้ำตาลกรวด ช่วยบำรุงกำลัง บำรุงสมอง ดีต่อปอด ไต ม้าม
แต่อย่ากินตอนเย็น เพราะจะเย็นเกินไป
บำรุงปอด
1. พืช ผัก ธัญพืช ที่มีสีขาวโดยธรรมชาติ บำรุงปอด เช่น ถั่วขาว, เห็ดหูหนูขาว เป็นต้น
2. น้ำสำรอง ทานก่อนตีห้า บำรุงปอด
3. หัวต้นหอมดีกับปอด หางกินแล้วเย็น
4. ข้าวเหนียว 2 ส่วน ต้มกับลำไยแห้ง 1 ส่วน ใส่น้ำมากๆ กินบำรุง ปอด หัวใจ ตับ
บำรุงตับ
1. ขมิ้นชัน ทานก่อนนอน
2. ถั่วเขียว บำรุงตับ
3. ชาแคลลี่ ดื่มก่อนนอน ช่วยตับขับสารพิษ
4. ลูกเดือยต้มกับถั่วขาว ถั่วขาว 1 ส่วน ลูกเดือย 2 ส่วน ต้มน้ำ 20 เท่า กินแต่น้ำ บำรุงตับ
บำรุงกล้ามเนื้อหัวใจ
1. ผักสด ผลไม้สด ทุกชนิด (กล้วย ส้ม ขนุน มีโปตัสเซียมมาก) และเนื้อหมู
2. งด ถั่ว ข้าวเหนียว ของดอง เต้าหู้ เพราะมีโซเดียมเยอะจะไปทำร้ายกล้ามเนื้อหัวใจ
3. ใบเตย ต้มน้ำ ทานแต่น้ำ
4. ถั่วแดง บำรุงหัวใจ
บำรุงเยื่อหุ้มหัวใจ
1. ถั่ว ข้าวเหนียว ของดอง เต้าหู้ ไข่เยี่ยวม้า มีโซเดียมสูง บำรุงเยื้อหุ้มหัวใจ
2. งด ผลไม้สด และ ผักสด เนื้อหมู ซึ่งมีโปตัสเซียมสูง จะไปทำร้ายเยื่อหุ้มหัวใจ
ละลายลิ่มเลือด แก้ช้ำใน
1. เหล้าขาว หรือ Vodka 2 ช้อนโต๊ะ ผสม น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ วันละครั้ง ดื่ม 3-7 วัน แล้วแต่อาการ
2. นมสด 1 แก้ว ชมิ้นชัน 1 ช้อนโต๊ะ เนยใส 1 ช้อนโต๊ะ (หรือ น้ำมันมะรุม1 ช้อนโต๊ะ แทนเนยใส หรือ น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ หรือ น้ำมันขิง 1 ช้อนโต๊ะ แทนเนยใส )คนให้เข้ากัน ทานติดกัน 5-10 วัน แล้วแต่อาการ
ล้างสารพิษตกค้าง, ไทรอยด์เป็นพิษ, เนื้องอก
1. เห็ด 3 อย่าง ใช้เห็ดที่ทานได้ (ไม่มีพิษ) ชนิดใดก็ได้ ต้มรวมกันไม่น้อยกว่า 3 ชนิด แล้วทานน้ำ จะช่วย บำรังตับ และ ขจัดสารพิษ สลายพังผืดในมดลูก ลดอนุมูลอิสระ ลด cell มะเร็ง เพิ่มโลหิตขาว ลดไขมันในเลือด แก้ภูมิแพ้
2. ชาแคลลี่ สมุนไพรสกัด ล้างสารพิษตกค้าง
3. เนื้อลูกยอ ทานในฤดูหนาว ล้างพิษ
4. น้ำต้ม ใบรางจืด กับ ใบเตย กะสัดส่วนเอง ทานล้างสารเคมีตกค้างจากยาฝรั่ง ล้างกรดยูริก
ริดสีดวงทวาร
สูตรแผนจีน กล้วยหอมทั้งเปลือก ฝานลงต้มกับน้ำตาลทรายแดง ทานทั้งน้ำทั้งเนื้อ
ลดไขมันในเลือด
1. กระเจี๊ยบแดง+พุทราจีน อย่างละเท่ากัน ต้ม ใส่น้ำเท่าไหร่ ให้กะเอง ใส่น้ำตาลทรายแดงนิดหน่อย ต้มแล้วเก็บไว้ในตู้เย็น ดื่มทุกวัน ดื่มมากน้อยเท่าไหร่ แล้วแต่พอใจ ไม่มีอันตราย สูตรนี้ยังช่วยลดหินปูนในเลือด ลดหินปูนในสมอง บำรุงเยื่อหุ้มหัวใจ แต่ไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจ
* น้ำกระเจี๊ยบแดงอย่างเดียว ที่ไม่ใส่พุทราจีน ทานมากจะมีผลต่อไต ไตจะเสื่อม ต้องใส่พุทราจีนด้วยจึงครบสูตร ทานได้ทุกวัน
2. มะละกอปลอกเปลือก ต้มในน้ำแกง หรือแกงส้ม ทานได้ทั้งน้ำและเนื้อ ลดไขมันในเลือด
3. มะเขือทุกชนิด มะเขือเทศ มะเขือเปราะ มะเขือพวง มะเขือยาว เป็นต้น
4. กะทิ และ ไข่แดง มี HDL Cholesterol ซึ่งเป็นไขมันตัวดี มีประโยชน์ ช่วบลด LDL Cholesterol (ไขมันตัวร้าย) ฉะนั้น ควรทาน กะทิ และ ไข่แดงเป็นประจำ
5. สะเดา ลวกสุก ทานล้างไขมัน ไม่ควรทานทุกวัน เพราะจะทำให้ปวดเมื่อยเนื้อตัว
ลดความอ้วน ลดไขมันสะสม
1. ทานมันเทศสีเหลือง หรือ บุก หรือ ฮ่วยซัว ระหว่าง 0900-1100 น. ช่วยอุ้มไขมันไปทิ้ง
2. เม็ดแมงลัก 2 ช้อนชา ผสมน้ำ 1 แก้ว ทานก่อนนอน หรือ ทานน้ำสำรองเป็นประจำ
3. ไวทาไลท์ 1 ซอง ผสมน้ำ 1 ลิตร ดื่มให้หมดภายใน 1 วัน ดื่มติดกันจนกว่าจะได้น้ำหนักที่พอใจ
4. แกงบอน ช่วยลดความชื้นในร่างกาย ปอดชื้น ไตชื้น ม้ามชื้น ลดความอ้วน
ขยายหลอดเลือด
1. หน่อไม้ ต้มกับใบย่านาง (หรือซุปหน่อไม้) ใบย่านางจะล้างพิษของหน่อไม้ สูตรนี้ช่วยขยายหลอดเลือด
2. กุ๊ยช่าย ลดความดัน ฟอกเลือด
ลดน้ำตาลในเลือด รักษาเบาหวาน
1. น้ำต้มใบมะยม หรือ หญ้าหวาน หรือ อบเชย หรือ รากเตย
2. ซันนี่ดิว สมุนไพรสกัดจากหญ้าหวาน
3. สูตร อ.จัสติน รากเตยหอม ผสม กับ อบเชย ต้มน้ำดื่ม ดื่ม ตอน 9 นาฬิกา วันละ 1 แก้ว
4. ว่านรางจืด ช่วยล้างพิษจากน้ำตาลในเลือด
5. ใบมะรุม
โรคปอดหรือหอบหืด
ขิง เท่าหัวแม่มือของผู้ป่วย หอมแดงเท่าขิง กระเทียมเท่าขิง ปั่นหรือตำเติมน้ำ 1 แก้ว กรองเอาแต่น้ำ ใส่น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ บีบมะนาว 3-4 ลูก ไม่เกิน 1 เดือน
กระเพาะอาหาร, กรดในกระเพาะ
1. ขมิ้นชัน 5-7 เม็ด ทานระหว่าง 0700-0900 เช้า บำรุงกระเพาะอาหาร
2. Assimilaid สมุนไพรสกัด บำรุงกระเพาะ
3. กระเจี๊ยบเขียว 3-5 ฝัก เมือกเพคติน สมานแผลในกระเพาะ
บำรุงม้าม
1. ถั่วเหลือง หรือ มันเทศสีเหลือง หรือ ขมิ้นชันทานเวลา 0900-1100 น.บำรุงม้าม
2. อัลฟ่า 20 ซี สมุนไพรสกัด ทานเวลา 0900-1100 น. บำรุงม้ามให้ผลิตเม็ดเลือดขาว สร้างภูมิคุ้มกัน แก้น้ำเหลืองเสีย ป้องกันงูสวัด
3. ดอกอัญชัญต้มน้ำ ทานน้ำ บำรุงม้าม ช่วยให้น้ำเหลืองดี
แก้ปวดข้อ
1. ลูกเดือยต้ม ทานเนิ้อแทนข้าว 7 วัน รวม 21 มื้อ แต่ละมื้อ ต้องมีลูกเดือยในสัดส่วนมากกว่า 70% ของมื้อนั้น
2. ใบยอ นึ่ง คั้นน้ำ หรือปั่น กินแก้ปวดข้อ ไม่ควรกินสดเพราะมีสารพิษ
3. กากกระชายที่ได้จากการปั่น ใช้ผสมเหล้ากับน้ำตาลทราย พอกเข่าแก้ปวดได้
4. น้ำต้ม ใบรางจืด กับ ใบเตย กะสัดส่วนเอง ทานล้างสารเคมีตกค้างจากยาฝรั่ง ล้างกรดยูริก
ปรับความดันให้สมดุลย์
1. น้ำกระชายปั่น : กระชายล้าง ไม่ต้องปอกเปลือก 1 ขีด น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ มะนาว 2 ลูก
ล้างกระชายให้สะอาด ปั่นให้ละเอียด เติมน้ำสะอาดลงไป 2 แก้ว กรองเอาแต่น้ำ ใส่น้ำผึ้งและน้ำมะนาวลงไป ผสมปรุงรสตามใจชอบได้
- บำรุงกระดูก (เพราะมี แคลเซียม สูง)
- บำรุงสมอง เพราะทำให้เลือดเลี้ยง สมองส่วนกลาง ดีขึ้น
- ปรับสมดุลของ ฮอร์โมน
- ปรับสมดุลของ ความดันโลหิต ( ความดันโลหิตสูงจะลดลง ความดันโลหิตต่ำ จะสูงขึ้น
- แก้ โรคไต ทำให้ ไต ทำงานดีขึ้น
- ป้องกัน ไทรอยด์ เป็นพิษ
- บำรุง มดลูก
- แก้ปัญหา ผมหงอก ผมร่วง
- อาการ กระเพาะปัสสาวะ เกร็ง (กรณีนี้อาจใช้ เม็ดบัว ต้มกิน)
- ควบคุมไม่ให้ ต่อมลูกหมาก โต
- แก้ปัญหา ไส้เลื่อน
*กระชายมีฤทธิ์ร้อน หากรู้สึกร้อนใน ให้ลดจำนวนลง
เพิ่มเม็ดเลือด
1. สัปปะรดกับใบโหระพา-ปั่นสด กรอง ทานแต่น้ำ, ผักชีปั่นกับสับปะรด ทานน้ำ, ใบยอ ปั่นกับสับปะรด เพิ่มเม็ด
2. ใบเตย ต้มกับใบมะนาว, ใบเตยต้มกับแก่นขนุน
3. ใบขี้เหล็ก กินสุก เช่น แกงขี้เหล็ก ห้ามกินดิบ เพราะมีสารพิษ
4. สมาธิบำบัด โดย กสิณสีแดง
เพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen)
1.น้ำ มะม่วงสุก / มะม่วงกวนต้มกับน้ำมะขาม / น้ำมะพร้าวอ่อน (ห้ามทานเนื้อ) /น้ำมะเฟือง / ผักกุ๊ยช่าย/ หอยแมงภู่แห้ง / ปลิงทะเล/ ว่านชักมดลูก(ชายสูงอายุต้องกิน จะช่วยให้ไม่เป็นไส้เลื่อน และไม่เป็นต่อมลูกหมากโต) ,
2. มุกสกัด
3. ลูกยอสุก เอาเม็ดออก ผสมยาสระผมสมุนไพร แก้เหา แก้คันจากไรฝุ่น ใช้ขับประจำเดือนอย่างแรง (ระวังอาจแท้งได้) ลูกยอมีฮอร์โมนเอสโตรเจน และตัวเบื่อเมา ใช้สับปะรดใส่ช่วยดับกลิ่นลูกยอได้
4. แครอทปั่นกับแอปเปิ้ลเขียวหรือฝรั่งหรือตะลิงปริง ,
บำรุงระบบเพศ
1. เนื้อลูกบัวต้ม
2. น้ำกระชายปั่น
สูตรอาหารอื่น ๆ
ใบกระเพราตากแห้ง - ใช้ต้มดื่มน้ำ ช่วยขับปัสสาวะ ขับลม
ใบมะยม,รากเตย, ใบหญ้าหวาน - ใช้ต้มดื่มน้ำ ช่วยบำรุงหัวใจ ด้านเบาหวาน ฟื้นฟูตับอ่อนให้แข็งแรง
ใบโหระพา - กินวันละ 7 ยอด เป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยดูแล ปอด, ตับ, ม้าม, ไต, หัวใจ ให้แข็งแรง
ใบโหระพาปั่นกับสับประรด - ช่วยสร้างเม็ดเลือด
ใบเตย+ใบมะนาว/ ใบเตย+แก่นขนุน / ใบเตย+แก่นฝาง - ต้มรวมกันดื่มน้ำ ช่วยสร้างเม็ดเลือด
ใบเตย+แฮ่ม - ลดน้ำตาลในเลือด แก้ไมเกรน
ใบยอ - นำเอาใบมาย่างไฟ แล้วยำกินช่วยบำรุงเลือดได้ดี
ใบหูเสือ - กินช่วยขับพยาธิได้
ใบขี้เหล็ก -ช่วยขับถ่าย และช่วยให้นอนหลับดีขึ้น
มันเทศ - ลดความอ้วน อุ้มไขมันไปทิ้ง ลดความชื้นของม้าม ซุปมันเทศลดอาการตัวบวม
แกงบอน, ขมิ้นชัน, มันเทศ - เป็นอาหารลดความชื้นของม้าม และปอ
แกงสับปะรดใส่หอยแมงภู่แห้ง - แก้ปัสสาวะขัด ต่อมลูกหมากโต
เนื้อสับปะรด - ต้านการอักเสบ
ตา แย่ ตาป่วย ตาเจ็บ ตาแสบ - ต้องล้างระบบดูดซึมและดื่มน้ำกระชายและส่งอาหารที่มีวิตามินA และวิตามินEเข้าไปมากๆ คือ ขมิ้น , แกงผักบุ้งเทโพ , ผักบุ้งไฟแดง , ผลไม้ตากแห้ง เช่นกล้วยตาก ลูกเกด
ลูกเกด :- แก้ตาแพ้แสง , บำรุงผิวพรรณ , รักษาไมเกรน ช่วยให้เลือดเลี้ยงสมองส่วนหน้าได้ดี , แก้ถุงน้ำดีข้น , ลดความบ้า โรคจิตขี้กลัว ลดเครียด , ลดคลอเรสเตอรอล สรรพคุณคล้ายกระเจี๊ยบพุทราแห้ง
พริกหวานสีแดง ป้องกันโรคปวดตามข้อได้ ทำให้กระชุ่มกระชวย มีชีวิตชีวา สนุกสนาน
พริกหวานสีเหลือง กระตุ้นความอยากอาหาร ช่วยย่อย
พริกหวานสีเขียว คลอโรฟิลจะไปสร้างเม็ดเลือด
ที่มา: pendulumthai.com/foodx.html
วันพุธที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2553
"คำคมโดยท่าน ว.วชิรเมธี "
2. สิ่งที่ตาเห็นอย่าเพิ่งสรุปว่ามี สิ่งที่คนยอมรับว่าดีอย่าเพิ่งบอกว่าเห็นด้วย
3. ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี
4. นักปราชญ์ตะวันตกกล่าวว่า อำนาจทำให้คนเสีย ยิ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จยิ่งเสียคนแบบเบ็ดเสร็จ
5. ดาบที่ดีต้องมีฝัก ความสามารถที่ดีต้องมีจริยธรรม
6. พ่อแม่ที่ดีต้องมีพรหมวิหาร 4 หน้า หน้า 1 เมตตา หน้า 2 คือ กรุณา หน้า 3 คือ มุทิตา หน้า 4 คือ อุเบกขา
7. ยามปกติเลี้ยงลูกด้วยเมตตา ยามมีปัญหาคอยช่วยเหลือด้วยกรุณา ยามลูกทำดีคอยส่งเสริม
ด้วยมุทิตา ยามลูกทำผิดปล่อยให้รับกรรมด้วยตัวเอง คือ อุเบกขา
8. รอยเท้าแรกที่เหยียบบนดวงจันทร์ไม่ใช่รอยเท้าของมนุษย์ แต่เป็นรอยเท้าแห่งจินตนาการ
9. การแก้กรรมคือการแก้ที่ความหลงผิด การแก้กรรมคือการเลิกทำความชั่ว ดังนั้นการแก้กรรมจึงไม่ใช่สำเร็จที่การสะเดาะเคราะห์หรือทำพิธีจากเกจิ
10. คนที่รู้เรื่องกรรมดีที่สุดคือตัวเราเอง คนที่แก้กรรมได้ดี่ที่สุดคือตัวของเรา การแก้กรรมต้องทำด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรม ไม่ใช่ด้วยพิธีกรรมแปลกๆ
11. คนขุดบ่อน้ำก็ลงต่ำอยู่ในดิน คนก่อกำแพงก็ขึ้นสูงตามกำแพงที่ก่อ ฉันนี้ฉันใดคนทั้งหลายก้เป็นเช่นนั้น จะสูงจะต่ำขึ้นอยู่กับการกระทำของตน
12. คนฉลาดชอบแกล้งโง่ คนโง่ชอบเสแสร้งว่าฉลาด ส่วนนักปราชญ์เรียนรู้ที่จะฉลาดและเรียนรู้ที่จะโง่
13. กฎแห่งกรรมไม่ต้องมีวีซ่า กฎแห่งกรรมไม่ยกเว้นหน้าอินทร์หน้าพรหม กฎแห่งกรรมไม่มีวันหยุด กฎแห่งกรรมเที่ยงธรรมตลอดกาล
14. บิล เกตต์ เรียนไม่จบแต่พบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เพราะเป็นคนใฝ่เรียนรู้ด้วยตนเอง ปัญญาไม่ได้อยู่ในมหาวิทยาลัยแต่อยู่ในจิตใจที่ใฝ่รู้
15. อย่ายึดติดกับความหลัง อย่าฟังเสียงปาปมิตร (มิตรชั่ว) อย่ามัวคิดริษยา อย่าเสียเวลากับคนเลวทราม
16. คนส่วนใหญ่เรียกร้องสิทธิมนุษยชน แต่คนมีปัญญาเรียกร้องสิทธิที่จะไม่ทุกข์
17. ความไม่รู้เป็นยอดแห่งมลทิน ปัญญาเป็นยอดแห่งสิริมงคล ความถ่อมตนเป็นยอดแห่งเสน่ห์
18. รถทุกคันล้วนมีเบรก รถทุกคันล้วนมีท่อไอเสีย คนทุกคนต้องมีเบรกคือสติ ต้องมีท่อไอเสียคือการปล่อยวาง
19. ความทุกข์ไม่เคยยึดติดเรา มีแต่เราต่างหากที่ยึดติดความทุกข์ ความสุขไม่เคยไปจากใจเรา มีแต่เราต่างหากที่ไม่เคยถนอมมันไว้ในใจของเรา
20. ยศ ทรัพย์ อำนาจเป็นเพียงมรรควิธีที่ทำให้ชีวิตนี้มีประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ โปรดอย่าเข้าใจผิดว่าเป็นเป้าหมายในการเกิดเป็นมนุ๋ย์
21. ทำผิดแล้วรู้สึกผิดต่อไปจะเป็นคนดี ทำผิดแล้วรู้สึกว่าเป็นความดีกาลกิณีจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
22. ที่สุดของความรักคือรักโดยไม่ครอบครอง ที่สุดของการให้คือให้โดยไม่หวังผล ที่สุดของทานคืออภัยทาน ที่สุดของคนคือการเป็นคนธรรมดาที่มีความสุข
23. ความรักไม่เคยทำให้ใครทุกข์ การไม่รู้จักธรรมชาติของความรักต่างหากที่ทำให้เกิดทุกข์ ธรรมชาติของความรักคือเกิดขึ้นในเบื้องต้น ดำรงอยู่ในท่ามกลาง และแตกดับไปในที่สุด
24. โลกนี้มีผี 6 ตัวที่น่ากลัวกว่าผีไหนๆ 1 ผีสุรา 2ผีเที่ยวกลางคืน 3. ผีมหรสพ (ติดใจในความบันเทิงจนเกินพอดี) 4 ผีการพนัน 5 ผีคบคนชั่วเป็นมิตร (คนชั่วอยู่ไหนชอบเถลไถลไปสนิทสนม) 6 ผีขี้เกียจ ผี 6 ตัวนี้ต้องปราบด้วยปฏิบัติธรรม
ขอบคุณบทความจากธรรมจักรดอทเน็ต
วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2553
"สั้นๆแต่...ซึ้งได้ใจจิงๆ..."
..............."ในดึกคืนหนึ่งที่ฝนตกฟ้าคะนองขนาดหนักมากและคุณกำลังขับรถกลับบ้าน ขณะที่ขับผ่านป้ายรถเมล์ป้ายหนึ่ง คุณพบคนสามคนกำลังรอให้ฝนหยุดเพราะดึกเกินกว่าจะมีรถเมล์วิ่งแล้ว...
....คนสามคนนั้นคือ
1. หญิงชราที่กำลังป่วยและต้องการการรักษาด่วน
มิฉะนั้นเธออาจจะตายได้
2. หมอซึ่งครั้งหนึ่งเคยช่วยชีวิตคุณไว้
3. ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นแฟนของคุณและคุณรักเขามากขนาดจะแต่งงานกับเขาให้ได้
คำถามมีอยู่ว่า รถคุณเป็นแบบนั่งได้แค่สองคน
ดังนั้นคุณจะรับคนไปด้วยได้อีกแค่คนเดียว
คุณจะรับใครไปด้วย และให้เหตุผลที่ตัดสินใจอย่างนั้น??
....ลองคิดดูสิว่าถ้าเราเป็นคนตอบคำถามข้อนี้
เราจะตอบว่ายังไง แล้วเทียบกับเหตุผลข้างล่าง
เอาล่ะ
....ลองดูเหตุผลของคำตอบแต่ละแบบแล้วเทียบกับเหตุผลของคุณ เนื่องจากแต่ละข้อก็มีเหตุผลที่เหมาะสมในตัวของมันเอง
เหตุผลข้างล่างนี้
เป็นเหตุผลของคนเกือบทุกคน
1. ถ้าคุณตอบว่ารับคนแก่ เหตุผลก็เพราะเขากำลังจะตาย ถ้าคุณรับไปก็เท่ากับช่วยชีวิตคนได้
2. ถ้าคุณตอบว่ารับหมอ เหตุผลก็เพราะเขามีบุณคุณกับคุณ และนี่คือเวลาที่จะตอบแทนได้บางส่วน
3. ถ้าคุณตอบว่ารับแฟนคุณ เหตุผลก็เพราะ เขาเป็นคนที่คุณรัก
คิดว่าตรงแค่ไหนล่ะ? แต่ผู้ที่บริษัทนั้นรับเข้าทำงานเป็นผู้เดียวที่ตอบอีกแบบนึง...ให้คิดอีกที
เขาตอบว่า ...
"เขาจะให้กุญแจรถกับหมอ
ให้หมอพาคนแก่ไปโรงพยาบาล
และเขาก็จะอยู่ที่ป้ายรถเมล์นั้น กับคนที่เขารัก"
เป็นไง ประหลาดใจกับคำตอบใช่ไหม?
และคิดว่ามันเป็นคำตอบที่ดีมากใช่ไหม?
ข้อคิดของเรื่องนี้คือ
"คน เรามักจะยึดติดและไม่ยอมปล่อยผลประโยชน์ตรงหน้า (กุญแจรถ และการกลับบ้าน) ทำให้เรามองอะไร ด้วยมุมมองที่แคบลง จะเห็นว่าการมอบกุญแจรถให้หมอ นอกจากจะได้ตอบแทนบุญคุณ (หมอก็คงไม่ยึดรถไปเป็นของตัวเองหรอก ภายหลังก็เอามาคืน)
เรายังได้ช่วยชีวิตหญิงชรา แถมได้อยู่กับคนที่เรารัก แบบสองต่อสอง เรียกได้ว่าเสียไปแค่ไม่ได้กลับบ้านในตอนนั้น! แต่เราบรรลุวัตถุประสงค์ใหญ่อีกหลายอย่างได้ คุณล่ะ คิดว่าคุณมีมุมมองที่กว้างหรือแคบและยึดติดกับผลประโยชน์ต่าง ๆ แค่ไหน...."
วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2553
วันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2553
คำคมดีๆ กับภาพสวยๆ
12 วิธีทำดีถวายในหลวง
2. ตามรอยพ่ออย่างพอเพียง
3. ทำดีและหใ้ความรักความปรารถนาดีแก่ผู้อื่น โดยเริ่มจากครอบครัวและคนใกล้ตัว
4. เริ่มต้นที่กายใจแข็งแรง ดูแลตนเองให้ดีเพื่อจุดเิริ่มในการทำความดีต่อๆ ไป
5. ทำใจให้เป็นสุข ลด ละ เลิกอบายมุขและสิ่งเสพติด
6. ปลูกต้นไม้ถวายเป็นพระราชกุศล ลดภาวะโลกร้อน
7. เมตตามีน้ำใจ เป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ
8. ประหยัดอดออม ใช้จ่ายแต่พอดี
9. ร่วมแบ่งปันและถ่ายทอดความดีแก่กัน
10. มีจิตอาสา ช่วยเหลือสังคมและส่วนรวม
11. สืบสานวัฒนธรรมไทย
12. กตัญญูต่อแ่ผ่นดิน ร่วมกันคนละไม้คนละมือพัฒนาประเทศชาติ
You'll never walk alone.
When you walk through a storm,
Hold your head up high,
And don't be afraid of the dark.
At the end of a storm,
There's a golden sky,
And the sweet silver song of a lark.
Walk on through the wind,
Walk on through the rain,
Though your dreams be tossed and blown..
Walk on, walk on, with hope in your heart,
And you'll never walk alone.
You'll never walk alone.
Walk on, walk on, with hope in your heart,
And you'll never walk alone.
You'll never walk alone.
ยามใดที่คุณได้เดินฝ่าพายุร้าย
จงภูมิใจในสิ่งที่คุณได้ฝ่าฝันจนผ่านพ้นมา
และอย่าได้หวาดกลัวกับความมืดมน
เมื่อพายุนั้นได้ผ่านพ้นไป
จะมีท้องฟ้าทอแสงสว่างสดใส
และมีท่วงทำนองอันแสนหวานที่ขับขานจากนกลาร์ค
ก้าวเดินต่อไปฝ่าสายลมแรง
ก้าวเดินต่อไปแม้สายฝนโหมกระหน่ำ
แม้ว่าความฝันของคุณจะถูกทำร้ายจนแทบสิ้นกำลัง
ก้าวเดินต่อไป ก้าวเดินต่อไป ด้วยความหวังเต็มเปี่ยมภายในใจ
และคุณจะไม่มีวันเดินเดียวดาย
คุณจะจะไม่มีวันเดินเดียวดาย
และคุณจะไม่มีวันเดินเดียวดาย
คุณจะจะไม่มีวันเดินเดียวดาย
Whatever Will Be, Will Be
When I was just a little girl
เมื่อฉันยังเป็นเด็กน้อย
I asked my mother what will I be
ฉันถามแม่ว่าอนาคตฉันจะเป็นอะไร
Will I be pretty, will I be rich
"หนูจะสวยไหม หนูจะรวยไหม"
Here's what she said to me
แม่ก็บอกฉันว่า
*Que sera, sera
สิ่งใดจะเกิดมันก็ต้องเกิด
Whatever will be, will be
อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
The future's not ours to see
เราไม่อาจหยั่งรู้อนาคตได้
Que sera, sera
สิ่งใดจะเกิดมันก็ต้องเกิด
What will be, will be
อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
When I grew up and fell in love
เมื่อฉันโตขึ้นและมีความรัก
I asked my sweetheart what lies ahead
ฉันถามที่รักของฉันว่าอนาคตของเราจะเป็นอย่างไร
Will we have rainbows day after day
"เราจะมีความสุขด้วยกันตลอดไปไหม"
Here's what my sweetheart said
สิ่งที่คนรักของฉันบอกก็คือ
*Que sera, sera
สิ่งใดจะเกิดมันก็ต้องเกิด
Whatever will be, will be
อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
The future's not ours to see
เราไม่อาจหยั่งรู้อนาคตได้
Que sera, sera
สิ่งใดจะเกิดมันก็ต้องเกิด
What will be, will be
อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
Now I have children of my own
ตอนนี้ฉันมีลูกเป็นของตัวเองแล้ว
They asked their mother what will I be
พวกเขาถามแม่ของเขาว่าโตขึ้นเขาจะเป็นอะไร
Will I be handsome, will I be rich
"ผมจะหล่อไหม ผมจะรวยไหม"
I tell them tenderly
ฉันก็ตอบพวกเขาอย่างอ่อนโยนว่า
*Que sera, sera
สิ่งใดจะเกิดมันก็ต้องเกิด
Whatever will be, will be
อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
The future's not ours to see
เราไม่อาจหยั่งรู้อนาคตได้
Que sera, sera
สิ่งใดจะเกิดมันก็ต้องเกิด
What will be, will be
อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
"คำอธิษฐานเวลาทำบุญ"
ขอบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้า ......พ้นจากสภาวะการณ์คับขันและเลวร้าย ให้อยู่รอดปลอดภัย มิพบกับความยากลำบาก ณ ปัจจุบัน ... แลอนาคต หากไม่ถึงเพียงใด ขอให้คำว่าไม่มีไม่รู้ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้ปรากฎแก่ข้าพเจ้า
ขอให้ ......หน้าที่การงานที่ข้าพเจ้ากระทำอยู่ ให้ได้กระทำได้สำเร็จ....อย่างมั่นคง
ขอพระจงเป็นสักขีพยานในการ .........อธิษฐานจิต...............ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเทอญ
ค ว า ม สุ ข ซ่ อ น ไ ว้ ที่ ไ ห น ?
มีมารน้อย 3 ตน แอบมาขโมยความสุขของมนุษย์
เอาไปแล้วก็ปรึกษากันว่าจะเอาไปซ่อนที่ไหนดี
ตนแรกก็ว่า ควรเอาไปซ่อนที่ภูเขาที่สูงที่สุดในโลก
แต่มารน้อยตนที่2ว่า เพื่อนเอ๋ย มนุษย์นั้น ไม่กลัวความสูง แต่กลัวหายใจไม่ออก
เพราะสังเกตได้ว่า ดำน้ำได้นิดเดียวก็ทะลึ่งพรวดขึ้นมาแล้ว เพราะกลัวหายใจไม่ออก
แต่บนภูเขาอากาศดี มนุษย์ชอบไปเที่ยวภูเขา เอาไปซ่อนไว้ใต้บาดาลดีกว่า
มารน้อยตนที่3 แย้งว่า อย่าเลยเพื่อนเอ๋ย มนุษย์มันเก่ง
สร้างเครื่องมือหาของในทะเล ในอากาศได้ เดี๋ยวมันก็หาเจอ
แต่สังเกตได้ว่า นัยน์ตามนุษย์มองไปข้างนอก หูก็ชอบฟังเสียงข้างนอก ชอบไปเที่ยวข้างนอก
เราควรแอบเอาไปซ่อนไว้ในใจมันดีกว่า มนุษย์หาไม่เจอแน่ ๆ
เพราะว่ามนุษย์ชอบหาความผิดของคนอื่น ไม่ชอบขัดใจตัวเอง
ไม่ชอบดูจิตใจของตัวเอง มารน้อยทั้ง 3 ตน ก็ตกลงความเห็นเป็นเช่นเดียวกัน
ตั้งแต่นั้นมา มารน้อยก็เอาความสุขของมนุษย์มาซ่อนไว้ที่ใจ
มนุษย์ผู้โง่เขลาจึงออกไปหาความสุขที่อื่น ที่ภูเขา ที่ชายทะเล ที่คลับ ที่ร้องเพลง
จึงหาความสุขไม่พบ ต้องออกไปข้างนอกหาความสุขในที่ผิด ๆ ตลอดมา
อนึ่งคนที่ไปเที่ยวเธคเที่ยวคลับกินเหล้า เพราะว่าเขามีทุกข์
จึงต้องออกไปหาความสุขมากลบเกลื่อน มาเฉลี่ยเพื่อให้ทุกข์นั้นน้อยลง
แต่พอเมาแล้วกลับบ้าน หายเมาตื่นเช้ามา ทุกข์นั้นก็ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม
โดยหารู้ไม่ว่าความสุขที่เฝ้าติดตามเฝ้าหา อยู่ที่ใจตัวเองนั่นเอง
ใยต้องออกไปหาความสุขที่อื่น ...ต่อให้หาเท่าไหร่
แต่ใจยังร้อนรุ่ม ไม่สงบ ก็หาสุขนั้นไม่พบหรอก...
ความสุขหาได้จากที่ไหนบ้าง
บางคนมีเงินมีทองมากมาย แต่หัวใจไม่มีความสุข
รุ่มร้อน..ทุรนทุราย แท้จริงแล้วความสุขหาได้จากทุกหนทุกแห่ง
จากดอกไม้เล็กๆ ข้างทาง
จากสายลมเย็นที่นำมาซึ่งความชุ่มฉ่ำใจ
จากรอยยิ้มจริงใจจากคนรอบข้าง
ความสุขหาได้ง่ายๆ เพียงแต่เลิกกำหนดตัวเองว่า
อย่างนี้คือสุข อย่างนั้นคือสุข
ความสุขเริ่มต้นเมื่อใจเป็นสุข...
คำคมจากหนังดัง
"การเสียสละมีค่ายิ่งกว่าการเป็นฮีโร่"
Star Wars 3
"ความกลัวที่จะสูญเสีย...เป็นหนทางนำไปสู่ด้านมืด"
"May the force be with you. ขอพลังจงสถิตแด่เจ้า"
APOLLO 13
"ความฝัน ถ้ายังไม่สามารถทำให้เป็นความจริงได้ ก็คือความฝันวันยังค่ำ"
One Fine Spring Day
"ผู้หญิงก็เหมือนรถเมล์ ถ้าเลยเราไปแล้วก็ไม่มีวันที่จะกลับมารับเราอีก"
My Girl&I
"ฉันเกิดก่อนเธอ หมายความว่าฉันได้มารอเธอในชาตินี้ก่อน และ ฉันจากไปก่อนเธอเพื่อไปรอเธอในชาติหน้าต่อไป แต่เธอไม่ต้องรีบมาหรอก ใช้ชีวิตในชาตินี้ก่อนตามเท่าที่เธอต้องการ แล้วฉันจะรอเธอ"
Love never meant to say you are sorry
"หากคิดจะรัก ต้องลืมคำว่าเสียใจ"
The Claassic
"บางครั้งชีวิตก็เจ็บปวด จงพยายามคุ้นเคยกับมัน"
Gangs of New York
"อดีตคือไฟฉายที่คอยส่องทางให้กับเรา"
Frailty
"บางครั้งความจริงก็อยู่ตรงข้ามเหตุผล"
The Matrix
"มีความแตกต่างระหว่างการรู้หนทางที่จะเดิน และการเดินบนหนทางนั้น"
Tranformers
"ไม่เสียสละ ชัยชนะไม่เกิด"
Strange Days
" ความทรงจำต่างๆย่อมมีการลบเลือนไปตามกาลเวลา มันถูกออกแบบมาให้เป็นอย่างนี้ด้วยเหตุผลบางอย่าง"
Good will hunting
"คุณจะรู้สึกสูญเสียจริงๆ ก็ต่อเมื่อคุณสูญเสียใครสักคน ที่คุณรักมากกว่ารักตัวคุณเอง"
Step Mom
"คนทุกคนสามารถผิดพลาดกันได้ คุณควรที่จะยอมให้อภัย"
Body shots
"ความรักทำให้คนเจ็บปวด แต่ความเจ็บปวดนั่นแหละคือสิ่งที่บอกคุณว่ายังมีชีวิตอยู่"
Mean girls
" การที่เราว่าคนอื่นโง่ ไม่ได้ทำให้เราฉลาดขึ้น "
Ocean 13
"เจอกันเมื่อเจอกัน"
วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553
"แม่"
สมัยนั้นยังไม่มีสถานสงเคราะห์คนชรา จึงไม่รู้ว่าจะเอาแม่ไปฝากใครให้เลี้ยงแทน
ชายหนุ่มจึงตัดสินใจแบกเอาไปปล่อยป่าให้อยู่ตามยถากรรม
... ระหว่างทาง แม่ไม่วอนขอ ไม่ถามไม่ว่าอะไร
ตั้งใจหักกิ่งไม้ตามทาง เรื่อยไป เข้าป่าลึก
ไกลมากแล้ว ลูกชายวางแม่ลงบนโขดหิน แล้วหันหลังเดินกลับทางเดิมไป ...
ตอนนี้เอง ที่แม่ตะโกนตามหลังลูกชายไปว่า ...
"ลูกเอ๋ย เดินตามรอยกิ่งไม้ที่แม่หักไว้ให้นะจะได้ไม่หลงทาง.
วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2553
ความรู้ก็คือความรู้ ปิดกั้นไปแล้วได้อะไรขึ้นมา
ประเทศเผด็จการทั้งหลายจึงไม่ชอบคนรู้มาก รายการเกี่ยวกับความรู้จึงมีน้อย ยัดแต่รายการ
ละครบันเทิงเข้าไป ประชาชนยิ่งโง่ยิ่งดี เพราะปกครองคนโง่ง่ายกว่า"
วินทร์ เลียววาริณ
จากเรื่อง บางกะโพ้ง
วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2553
เพราะชีวิตคนเรามีแค่ 21,900 วันเท่านั้น
คนเราอายุเฉลี่ย 60 ปี
1 ปี เท่ากับ 365 วัน
แสดงว่าแต่ละคนมีเวลาบนพื้นโลก 21,900 วัน
คิดปลีกย่อยไปกว่านั้นก็ 525,600 นาที
ลองนับเป็นสัปดาห์ อืม...ไม่เลว 3,120 สัปดาห์
แสดงว่า เรามีโอกาสเที่ยวในคืนวันเสาร์สามพันกว่าครั้งเท่านั้นเอง คิดแบบนี้แล้วไม่กล้าดูนาฬิกา
แทบเบือนหน้าจากปฏิทิน เพราะมันไม่ต่างอะไรกับการนับแถวหลังเพื่อรอวันลาโลก
เปล่าเลย ผมไม่ได้กลัวตาย ตรงกันข้าม ผมคิดว่าตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้มันน้อยมาก
หากคำนวณในเชิงตัวเลข ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่ยังไม่ได้อ่าน เพลงอีกหลายเพลงที่ยังไม่ได้ฟัง
หนังอีกหลายเรื่องที่ยังไม่เคยดู ความรู้สึกในใจมากมายที่ยังไม่เคยบอก
พื้นที่อีกหลายล้านตารางกิโลเมตรที่ยังไม่เคยไป
โอ๊ย...กลุ้ม สองหมื่นกว่าวันที่เราได้รับมามันน้อยเกินไปจริงๆ
และที่น่ากลุ้มไปกว่านั้น คือ ใช่ว่าทุกคนจะอยู่ถึง 60 ปี
แน่นอน 1 ปี ยังเท่ากับ 365 วัน
นั่นแสดงว่า บางคนไม่ได้มีเวลาอยู่บนพื้นโลกถึง 21,900 วันหรอกนะ
อาจไม่ถึง 3,120 สัปดาห์ซะด้วยซ้ำ
อุแม่เจ้า... 2 คืนวันเสาร์ที่จะได้ไปเที่ยวเหลือไม่ถึงสามพันแล้วเหรอเนี่ย
คิดแบบนี้แล้วต้องรีบยกนาฬิกาขึ้นมาดู กางปฏิทินออกกว้างๆ
เพราะนี่คือวันเสาร์ที่เราเหลือ...บนพื้นโลก
นี่เรากำลังอ่านอะไรบ้าบอ อยู่เนี่ยคิดมากไร้สาระ ฟุ้งซ่าน(รู้นะว่าพวกเธอคิดอยู่) ....
ไม่เลย นี่ไม่ใช่ปรัชญางี่เง่าอะไรทั้งนั้น หากเป็นความจริงที่เราไม่ค่อยได้มองมัน เอาล่ะ นี่คือ เรื่องจริงเรื่องหนึ่ง
ที่คนส่วนใหญ่มองข้ามมันไป งั้นสมมติว่าทุกคนอายุ 18 ปี แปลว่าใช้ชีวิตมาแล้ว 6,235 วัน และผ่านคืน
วันเสาร์มา ร้อยกว่าครั้ง ส่วนหน่วยนาทีนั้น...คำนวณเองบ้างซิว้อย!!!
เอาเวลาที่ใช้ไปนั้น หักลบกับเวลาที่(คาดว่าน่าจะ)เหลืออยู่ผลลัพธ์ที่ได้ เราจะยังไงกับมันดี
แต่น่าแปลก หลายคนยังยอมทำงานน่าเบื่อ นั่งเอาหัวตากแอร์ไปวันๆ ยอมให้คนที่ไม่ใช่พ่อใช่แม่จิกหัวใช้
เพื่ออะไรบางอย่างที่เราเรียกว่า เงินเดือน
บางคนทนเรียนอะไรก็ไม่รู้อยู่ 4 ปี ทั้งๆ ที่ก็ไม่รู้ว่าชอบหรือเปล่า รู้แต่ว่าแม่ชอบ ไม่ก็เห็นเพียงว่า
เพื่อนเรียน เพียงแค่ตอบตัวเองไม่ได้ว่าผมจะเป็นอะไรดี
บางคนแอบรักเขา ซุ่มเลิฟอยู่อย่างนั้น ปล่อยให้ความรู้สึกที่ดีลอยไปหาคนอื่น แต่กลับปล่อยให้หัวใจตัวเอง
เหลือแต่ความรู้สึกต่ำต้อยได้ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน
บางคนกินทิฐิเป็นอาหาร เก๊กใส่กันไปวันๆ ต่างฝ่ายต่างรอให้อีกฝ่ายง้อ คุณแน่ ผมแน่ งอนการกุศล
ประชดทำลายสถิติ เชิดหยิ่งชิงชนะเลิศ...ไอ้บ้า!!!
และอีกหลายคนนิยมกิจกรรม 'ฆ่าเวลา' ... ชีวิตมันว่างจัด ขนาดต้องนั่งฆ่าเวลากันเลย
บอกตรงๆ เห็นแล้วอยากตบกบาล เอ็งกำลังทำลายทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดที่มนุษย์ทุกคนพึงจะมี
อีกหน่อยเราก็ตายจากกัน...แล้วนะ
ลองคิดแบบนี้บ้าง...ใช่แล้ว...เราจะเกิดความเสียดายเพราะเหลืออีกหมื่นแสนล้านอย่างที่ี่เราไม่ได้ทำ
ตายได้ยังไงหากฝันไม่สำเร็จ...ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ยอมตาย
แต่ให้รีบทำทุกอย่างก่อน ที่จะตาย...ซึ่งจะเป็นวันไหนก็ไม่รู้
เคยสงสัยมั้ย... ทำไมเราถูกกำหนดไม่ให้รู้วันตายของตัวเองเพราะมันจะทำให้เราไม่แยแสทุกสิ่งทุกอย่าง
และตอบสนองความต้องการของตัวเอง ทั้งในทางดีและทางชั่ว
และในเมื่อเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่...มาเตรียมการรอรับวาระสุดท้ายของเราดีกว่า เอาแบบว่าถ้าตาย
วันพรุ่งนี้ก็จะได้นอนตาหลับ เกิดโชคดีไม่ตายขึ้นมาเราก็จะได้กำไรในการอยู่ต่อเพื่อทำสิ่งดีที่ยังค้างคา
ใช้ชีวิตโดยคิดซะว่า...พรุ่งนี้ชั้นจะตายแล้ว
ทำในสิ่งที่เรารัก เสมือนว่าเราจะไม่ได้ทำมันอีก
ตามฝันของเราไปสุดโต่ง...ต้องรีบแล้ว...เดี๋ยวตายยนะ...เตือนแล้วไง
รักให้หมดใจ บอกเขาไปทั้งหมดที่ความรู้สึกมี ส่วนจะรักหรือไม่รักผม ไม่สนว้อย...
เพราะพรุ่งนี้ชั้น(อาจจะ)ตายแล้ว
ใช้เวลา(ที่อาจจะ)สุดท้ายที่มีต่อกันไว้ กอดกันเหมือนว่านี่เป็นกอดสุดท้ายของเรา
นุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะอย่างน้อยๆ เราจะได้มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มตอยให้สัมภาษณ์ยมบาล
คนข้างบ้านเดินหน้าแป้นแล้นมาบอกกข่าวดี ลูกสาววัย 23 กำลังจะแต่งงาน ในมือมีซองสีชมพูพร้อม
การ์ด ลูกสาวอยู่ต่างจังหวัดกับคู่หมั้น แม่เลยต้องมาแจกการ์ดเอง แต่เมื่อกี๊นี้ว่าที่เจ้าสาวเพิ่งโทร.มา
ปรึกษาแม่เรื่องชุดแต่งงาน หลังจากนั้น 3 ชั่วโมง เธอตาย... แต่กว่าที่คนเป็นแม่จะได้รู้ข่าวร้าย ก็
ปาไป 5 วัน ซองในมือผมกลายเป็นเงินช่วยงานศพ ช่อดอกไม้กลายเป็นพวงหรีดและทั้งหมดกลายเป็น
แรงบันดาลใจที่อยากจะบอกว่าอีกหน่อยเราก็ตายจากกัน...แล้วนะ
อ้าว!!! รู้งี้ยังจะมาอ้อยสร้อยอะไรกันอีก รีบแยกย้ายไปใช้เวลาที่เราเหลืออยู่ทำทุกอย่างที่เรายังไม่ได้ทำ
เดี๋ยวตายซะก่อน...เสียดายแย่!!!
เครดิต : น้าเน็ค






























